บทที่ 14 การใช้งานเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

                    

14.1 การค้นหาพื้นฐานจากเว็บ Google

    การค้นหาหลักของ Google ก็คือสามารถค้นหาเว็บเพจที่เกี่ยวข้องกับคำว่าที่เราป้อนลงในช่องค้นหา ซึ่งสามารถป้อนได้ทั้งคำที่เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ นอกจากนั้น Google ยังให้เราสามารถค้นหาไฟล์ภาพที่อยู่ภายในเว็บเพจบนอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับคำที่เราป้อน ในที่นี้เรามาดูการค้นหาพื้นฐานบน Googleด้วยกัน

14.1.1 ค้นหาเว็บเพจที่ต้องการ

      ให้ป้อนคำที่ต้องการค้นหาลงในช่องว่าง และคลิกที่ปุ่มค้นหา Google จะแสดงรายการของเว็บเพจผลลัพธ์ด้านล่าง พร้อมรายละเอียดเบื้องต้นของเว็บเพจนั้น ที่เราสามารถเลือกคลิกเพื่อเข้าไปชมหน้าเว็บเพจนั้นๆ ได้ทันที

14.1.2 ค้นหาไฟล์ภาพบนอินเตอร์เน็ต

      อีกความสามารถหนึ่งของ Google ก็คือ การค้นหาไฟล์ภาพในเว็บเพจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคำที่เราป้อนลงในช่องค้นหาโดยผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหานั้น Google จะแสดงไฟล์ภาพขนาดย่อให้เราเห็นพร้อมรายละเอียดของไฟล์นั้นๆ เช่น ชื่อภาพ ขนาดไฟล์ภาพ เพื่อให้เราเปิดดูได้ทันที

14.2 เทคนิคการค้นหาใน Google

     นอกจากการค้นหาเบื้องต้นแล้ว เรายังสามารถเลือกใช้เทคนิคต่างๆ ที่จะนำเสนอต่อไปนี้เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการในอินเตอร์เน็ตได้อย่างเจาะจงยิ่งขึ้น เช่น ค้นหาโดยเจาะจงยิ่งขึ้น เช่น ค้นหาโดยเจาะจงประเภทของไฟล์ การใช้คำเลื่อนเข้ามากำหนดการค้นหาให้แคบลง หรือการค้นหาแบบพิเศษ เป็นต้น

14.2.1 ใช้คำเชื่อม AND และ OR ช่วยค้นหา

       ในการค้นหาโดยทั่วไป เมื่อเราป้อนคำหลายๆคำ Google จะทำการค้นหาโดยใช้ AND เชื่อมอยู่ในประโยคเสมอ เช่น เมื่อเราค้นหา BACK and to and future (คือการค้นหาแบบแยกคำ)

      การใช้ OR คือการให้ Google ค้นหาข้อมูลมากขึ้นจากคำแรก และคำสอง (คือนำผลที่ได้มารวมกัน) วิธีใช้โดยการพิมพ์ OR ด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่คั่นระหว่างคำที่ต้องการ

14.2.2 ใช้ “+” ช่วยค้นหาคำที่ถูกละเว้น

       Google จะละเว้นคำทั่วๆ ไปบางคำ A, AN, To, The หรือ of และอักษรเดี่ยว แต่ถ้าคำพวกนั้นสามารถช่วยให้การค้นหาง่ายขึ้น ก็ต้องใช้เครื่องหมาย “+” ช่วย โดยนำไปอยู่นำหน้าคำที่ต้องการ Google ใช้ในการค้นหาด้วย

14.2.3 การค้าหาแบบละเอียด

         Google สามารถกำเนิดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง เพื่อให้สามารถเข้าถึงหน้าเว็บเพจที่เราต้องการได้ตรงยิ่งขึ้น โดยเลือกใช้ “การค้นหาแบบละเอียด”(Advanced search) เช่น กำหนดคำเจาะจง เลือกภาษาสำหลับหน้าเว็บที่จะค้นหา กำหนำชนิดของไฟล์ที่จะค้นหาหรือค้นหาหน้าเว็บเจเฉพาะภายในเว็บไซต์หนึ่งเท่านั้นก็ได้

14.2.4 ตัดคำที่ไม่ต้องการค้นหาออก

          Google สามารถตัดคำพ้องรูปได้ด้วยการใช้เครื่องหมาย “_”โดยการนำไปอยู่ที่คำที่จะตัด คือ ให้ค้นหาผลลัพธ์ที่ไม่เกี่ยวกับคำๆ นั้น เช่น คำว่า “bass-music” หมายความว่าค้นหาเว็บเจที่มีคำว่า bass โดยไม่มีคำ music เป็นต้น

14.2.5 ค้นหาโดยกำหนำประเภทของไฟล์

         ความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่เป็นประโยชน์มากก็คือ เราสามารถใช้ Google ค้นหาไฟล์ในรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช้หน้าเว็บเจ HTML ได้ โดยประเภทของไฟล์ที่ Google รับรองก็คือ

                .pdf        ไฟล์เอกสาร Adobe Acrobat Reader

                .ps           ไฟล์เอกสาร Adobe Acrobat PostScript

                .xls         ไฟล์เอกสาร Microsoft Excel

                .ppt         ไฟล์เอกสาร Microsoft PowerPoint

                .doc        ไฟล์เอกสาร Microsoft Word

                .wri        ไฟล์เอกสาร Microsoft Write

                .rtf          ไฟล์เอกสาร Rich Text Format

                .txt          ไฟล์เอกสาร Text File

14.2.6 ให้ Google ช่วยแปลภาษาบนเว็บ

Google สามารถแปลเว็บภาษา ltalian, French, Spanish, German, และ Portuguese เป็นภาษาอังกฤษได้ โดยคลิกที่คำว่า “Translate this page” บริเวณด้านข้างของชื่อเว็บที่ค้นหาได้โดยความสามารถนี้ต้องใช้คำค้นหาจากเว็บ www.google.com เท่านั้น

14.2.7 ให้ Google ค้นหาหน้าเว็บที่คล้ายกัน

                Google สามารถค้นหาหน้าเว็บที่คล้ายกัน (Similar pages) โดยคลิกเมาส์ที่ Similar pages หรือ “หน้าเว็บที่คล้ายกัน” โดย Google จะค้นหาและแสดงหน้าเว็บที่คล้ายกันภายในเว็บไซต์นั้น ๆ    

14.3 แนะนำเว็บไซต์ค้นหาอื่นๆ

ในปัจจุบันมี Search site มากมายทั้งที่เป็น search site หลักๆไปจนถึง search site ที่เจาะจง เช่น search site ข้อมูลธุรกิจ โดยต่อไปนี้เป็นรายชื่อเว็บที่เป็น search site หลักต่างๆ ที่เราควรลงทะเบียนเว็บของเราไว้ หากเว็บของเรามีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ

14.4 โอนย้ายไฟล์ข้อมูลด้วย FTP

การโอนย้ายไฟล์ในอินเตอร์เน็ตด้วย FTP (file transfer protocol) เป็นการเคลื่อนที่ย้ายไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

FTP ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการให้บริการโอนย้ายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น เกมหรือโปรแกรมใช้งานรุ่นล่าสุด โดยผู้ผลิตซอฟท์แวร์ของตนเองได้หันมาใช้วิธีนี้เพราะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และเสียค่าใช้จ่ายน้อย

สำหรับรูปแบบการใช้ FTP นั้นแบ่งออกได้ 2 ประเภทคือการดาวน์โหลด (Download) ซึ่งเป็นการโอนย้ายข้อมูลจากคอมพิวเตอร์อื่นมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ เช่น การดาวน์โหลดเกมล่าสุดจากบริษัทผู้ผลิต การใช้ FTP อีกประเภทคือการอัพโหลด (Upload) ซึ่งเป็นการโอนย้ายข้อมูลจากภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ไปเก็บไว้ที่คอมพิวเตอร์อื่น เช่น การสร้างเว็บเพจส่วนตัวผู้สร้างเว็บเพจจะต้องทำการอัพโหลด เว็บเจนั้นไปไว้ที่คอมพิวเตอร์แม่ข่ายในอินเตอร์เน็ตที่ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูล

14.4.1 ดาวน์โหลดไฟล์จาก FTP มาไว้ที่เครื่อง

                FTP จะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ไฟล์ติดตั้งโปรแกรม ไฟล์คลิปวีดีโอ ไฟล์เสียง เป็นต้น ซึ่งบางแห่งก็มีการเปิด ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี ในปัจจุบันมีเว็บไซต์จำนวนมากที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถค้นหาและดาวน์โหลดไฟล์เหล่านั้น เพื่อนำไฟล์ติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ มาใช้งานต่อไปได้

เข้าไปยังเว็บไซต์ที่ให้บริการ FTP ที่มีการให้ตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถทำการดาวน์โหลดข้อมูลได้อย่างเช่น ftp://ftp.cica/fedora/linux/core/5/i386//iso/เมื่อเลือกเข้าไปยังจุดที่สามารถดาวน์โหลดได้ ซึ่งมักจะมีลิงค์ให้เราคลิกเพื่อดาวน์โหลด

ให้คลิกเมาส์ขวาแล้วเลือกคำสั่ง Copy To Folder

หน้าจอจะปรากฏหน้าต่างให้เลือกตำแหน่งโฟลเดอร์หรือสร้างโฟลเดอร์ใหม่ที่ต้องการเก็บไฟล์ที่จะดาวน์โหลด (โฟลเดอร์ปลายทาง)

เมื่อเลือกแล้ว คลิกปุ่ม OK จากนั้นหน้าจอจะแสดงภาพขณะไฟล์กำลังถูกดาวน์โหลด

ไฟล์จะถูกคัดลอกจากเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการ FTP มาที่โฟลเดอร์ที่กำหนดไว้ โฟลเดอร์นั้นจะมีไฟล์เพิ่มขึ้นมา

นอกจากวิธีที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว เรายังดาวน์โหลดได้อีกวิธีหนึ่ง โดยหลังจากที่เราเข้าไปเว็บไซต์ที่ให้บริการ FTP แล้วเราสามารถเปิดหน้าจอ File Explorer ในตำแหน่งโฟลเดอร์ที่เราต้องการเก็บไฟล์ที่ดาวน์โหลดได้ จากนั้นลากเมาส์จากชื่อไฟล์ที่ต้องการดาวน์โหลดที่อยู่ในหน้าจอ FTP มาสู่โฟลเดอร์ที่เราต้องการจัดเก็บไฟล์ จากนั้นไฟล์ก็จะถูกคัดลอกมาที่โฟลเดอร์ปลายทางเช่นเดียวกัน

14.4.2 อัพโหลดไฟล์จากเครื่องสู่ FTP

                ให้เปิดหน้าจอแบบเดียวกันกับการดาวน์โหลดด้วยวิธีลากเมาส์ แต่ให้ตรงข้ามกัน คือ ลากเมาส์จากชื่อไฟล์ใน File Explorer และลากไปที่หน้าจอ FTP ที่ต้องการจะอัพโหลด จากนั้นหน้าจอจะแสดงภาพขณะไฟล์ถูกอัพโหลด และไฟล์จะถูกคัดลอกสู่ FTP

14.5 ความเข้าใจเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับอีเมล์

                ก่อนที่เราจะส่งอีเมล์ฉบับแรก มีสิ่งที่เราควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องก่อนเพื่อจะส่งอีเมล์ได้อย่างถูกต้องและไปถึงผู้รับถูกคน เช่นเดียวกับการส่งจดหมายธรรมดาที่จะต้องมีการระบุที่อยู่ผู้รับ เมื่อเราต้องการส่งอีเมล์ เราต้องทราบอีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ของผู้ที่เราต้องการส่งก่อน อีเมล์แอดเดรสนั้นอาจดูเหมือนว่ายาก แต่ที่จริงแล้วง่ายมาก

                ให้เราพิจารณาอีเมล์โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

ส่วนแรกคือ ชื่อผู้ใช้ (user name) ที่อยู่ทางซ้ายของเครื่องหมาย @ (อ่านว่า แอด) ชื่อผู้ใช้เปรียบเหมือนชื่อผู้รับที่เราใช้จ่าหน้าซองตอนที่เราส่งจดหมายธรรมดา

ส่วนที่สองคือ ตำแหน่งของผู้ใช้ (location) ที่อยู่ทางขวาของเครื่องหมาย @ ซึ่งเปรียบได้เหมือนป็นที่อยู่ของผู้รับ

วิธีการอ่านอีเมล์อย่างเข้าใจคือ การอ่านจากซ้ายไปขวา ซึ่งจะเห็นได้ว่าอีเมล์แอดเดรสที่จริงแล้วเปรียบได้เหมือนกับข้อมูลที่เราแจ้งให้กับบุรุษไปรษณีย์ โดยส่วนที่อยู่ทางขวาของเครื่องหมาย @ นั้นระบุชื่อบุคคลที่รับอีเมล์นั่นเอง

14.5.1 การสมัครขอใช้บริการอีเมล์ฟรี

                ผู้ที่จะใช้บริการอีเมล์จะต้องมีชื่ออีเมล์ประจำตัว ซึ่งอาจจะได้จากบริษัท หรือสถานศึกษา แต่ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปก็สมัครขอชื่ออีเมล์ฟรีได้

14.5.2 เริ่มต้นใช้อีเมล์

                เริ่มต้นใช้งานอีเมล์โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Windows Live Hotmail และป้อนชื่ออีเมล์และรหัสผ่านเพื่อเข้าใช้บริการอีเมล์

14.5.3 ส่งอีเมล์ถึงเพื่อน

                เมื่อจะส่งอีเมล์หาเพื่อน เราต้องทราบอีเมล์แอดเดรสของเพื่อนที่เราจะส่งถึงก่อน โดยในการส่งอีเมล์นั้น เรายังสามารถส่งอีเมล์ฉบับเดียวกันนี้ไปถึงคนอื่น ๆ พร้อมกันในครั้งเดียวได้ด้วย

14.5.4 ส่งไฟล์แนบไปกับอีเมล์

                เราสามารถส่งไฟล์แนบไปกับอีเมล์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ภาพประเภทต่าง ๆ ไฟล์เอกสาร ไฟล์ภาพหรือไฟล์วีดีโอก็ได้

14.5.5 เปิดอ่านอีเมล์

                อีเมล์ส่งมาหาเรานั้นจะถูกเก็บไว้ในกล่องจดหมาย โดยเมื่อคลิกที่ กล่องจดหมาย ก็จะแสดงรายการอีเมล์ที่ถูกส่งมาถึงเรา

14.5.6 เปิดไฟล์ที่มากับอีเมล์

                หากเราเจอสัญลักษณ์ คลิบหนีบกระดาษ ข้างซองจดหมาย ของเรา แสดงว่าเพื่อนเราได้ส่งไฟล์อื่นแนบมาด้วย

14.5.7 ตอบกลับอีเมล์

                เราสามารถตอบกลับอีเมล์ที่เปิดอ่านได้ทันที ซึ่ง Windows Live Hotmail จะเปิดหน้าต่างการส่งอีเมล์และระบุหัวข้ออีเมล์สำหรับตอบกลับ พร้อมกับยกข้อความอีเมล์ที่ได้รับมาไว้เพื่ออ้างอิงด้วย

14.5.8 ลบอีเมล์ที่ไม่ต้องการ

                หากอีเมล์ที่เราเปิดอ่านแล้ว ไม่ได้เป็นเนื้อหาที่สำคัญ หรือเป็นอีเมล์ที่มาจากผู้ส่งนิรนามอาจเป็นไวรัสเข้ามา เราควรลบทิ้งไป เพราะจะช่วยประหยัดพื้นที่กล่องรับอีเมล์ของเรา

ลบอีเมล์นั้นทันทีหลังจากอ่านเรียบร้อยแล้ว

                หลังจากอ่านข้อมูลข้างในเรียนร้อยแล้ว และเราไม่ต้องการเก็บอีเมล์ฉบับนั้นไว้ เราสามารถสั่งลบได้ทันที

ลบอีเมล์ครั้งละหลาย ๆ ฉบับ

                อาจจะมีอีเมล์ที่ไม่ต้องการคลิกเข้าไปดูในเนื้อหาข้างใน เช่น อีเมล์ที่ส่งมาจากคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งอาจแนบไฟล์ที่ติดไวรัสมาด้วย ดังนั้นควรลบทิ้งไป