วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

บทที่ 13 ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต


13.1 ที่มาของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต ( Internet ) คือ เครือข่ายของคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วยกัน โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเชื่อมเครือข่าย ภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงด้วยโปรโตคอลเดียวกันคือ TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในอินเทอร์เน็ตสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ นับว่าเป็นเครือข่ายที่กว้างขวางที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีผู้นิยมใช้ โปรโตคอลอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลกมากที่สุด
อินเทอร์เน็ตจึงมีรูปแบบคล้ายกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบ WAN แต่มีโครงสร้างการทำงานที่แตกต่างกันมากพอสมควร   เนื่องจากระบบ WAN เป็นเครือข่ายที่ถูกสร้างโดยองค์กรๆ เดียวหรือกลุ่มองค์กร เพื่อวัตถุประสงค์ด้านใดด้านหนึ่ง และมีผู้ดูแลระบบที่รับผิดชอบแน่นอน แต่อินเทอร์เน็ตจะเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างคอมพิวเตอร์นับล้านๆ เครื่องแบบไม่ถาวรขึ้นอยู่กับเวลานั้นๆ ว่าใครต้องการเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตบ้าง ใครจะติดต่อสื่อสารกับใครก็ได้ จึงทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตไม่มีผู้ใดรับผิดชอบหรือดูแลทั้งระบบ

13.2  ประโยชน์การใช้งานอินเทอร์เน็ต
                อินเทอร์เน็ตสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน  ขึ้นกับรูปแบบความต้องการการใช้งานของผู้ใช้สามารถสรุปเป็นแนวทางได้ดังนี้
13.2.1 ด้านการสื่อสาร
                อินเทอร์เน็ตสามารถใช้เพื่อการสื่อสารกับผู้อื่นได้ไม่ว่าจะอยู่ไกลเพียงใดก็ตาม  ซึ่งนอกจากเป็นจดหมายทางอิเล็กทรอนิกส์  การ์ดอวยพรที่มีเสียงและภาพเคลื่อนไหว  หรืออาจใช้เสียงภาพ  และข้อความสื่อสารกันแบบทันใดได้  อินเทอร์เน็ตยังเปิดโอกาสในการค้นหาเพื่อนเพื่อนสนทนา  และแลกปลี่ยนความคิดเห็นได้อีกด้วย
13.2.2  แหล่งความรู้
                อินเทอร์เน็ตเป็นเหมือนแหล่งความรู้  ที่มีข้อความมากมายที่เราสามารถนำมาใช้ได้  ซึ่งไม่เป็นเพียงข้อความเท่านั้น  แต่มีทั้งภาพ  เสียง  ภาพยนตร์  แหล่งข่าวสารและความบันเทิง  เราสามารถติดตามข่าวล่าสุด  ดูหนังฟ้งเพลง  และภาพยนตร์ล่าสุด  ไม่ว่าจะต่างประเทศหรือในประเทศก็ได้
13.2.3 แหล่งความบันเทิง
                อินเทอร์เน็ตมีเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมายที่ให้บริการเกี่ยวกับด้านความบันเทิง  เช่น  เว็บวิทยุออนไลน์  เว็บไซต์ของภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ เราสามารถเลือกดูข่าวบันเทิงทั้งไทยและต่างประเทศ  ฟังเพลง  หรือสถานีวิทยุผ่านทางอินเทอร์เน็ต  หรือเลือกชมตัวอย่างหนังใหม่ที่กำลังเข้าฉายได้
13.2.4  การซื้อสินค้าและบริการ
                อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งจับจ่ายสินค้าและบริการมากมาย  ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทมากกว่าหมื่นชื่อที่ได้หันมาประชาสัมพันธ์ตัวเอง  และให้บริการลูกค้าบนอินเทอร์เน็ตตลอด  24  ชั่วโมง  ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถขอดูข้อมูลและสินค้าแลละเปรียบเทียบราคาได้อย่างสะดวก  เมื่อชอบใจสินค้าก็สามารถสั่งซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตได้
13.2.5  อีเมล์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์
                อีเมล์  หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างสูงบริการหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต  ใน 1 นาทีนั้น  มีจำนวนรับส่งถึงกันมากมายหลายฉบับ  เพราะการับส่งอีเมล์นั้นสามารถทำได้รวดเร็วเพียงแค่เสี้ยววินาที  อีกทั้งยังสามารถส่งหลาย ๆ คนได้พร้อมกันในครั้งเดียว  ทำให้เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องการสื่อสารได้เป็นอย่างดี
13.2.6  สื่อสารกับผู้อื่นแบบทันทีทันใด
                อินเทอร์เน็ตนอกจากมีความสามารถในการใช้เพื่อการสื่อสารกับผู้อื่นได้  ไม่ว่าจะอยู่ไกลเพียงใดก็ตาม  เช่น  การส่งเป็นอีเมล์  การ์ดอวยพรที่มีเสียงและภาพเคลื่อนไหวแล้ว  อินเทอร์เน็ตยังมีบริการออนไลน์  ที่เป็นการสื่อสารแบบโต้ตอบกับผู้อื่นแบบทันทีทันใดด้วย  ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตได้  นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาเพื่อนใหม่ทางอินเทอร์เน็ต  และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเขาได้ด้วย
13.2.7 ศูนย์รวมดาวน์โหลดโปรแกรม และเกม
                บนอินเทอร์เน็ตมีโปรแกรมใช้งาน  และเกมมากมายที่สามารถนำมาใช้ได้  ซึ่งมีตั้งแต่โปรแกรมประเภทฟรีแวร์  (Freeware)  ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถนำมาใช้ได้  ซึ่งมีตั้งแต่โปรแกรมประเภทแชร์แวร์  (Shareware) ที่ให้ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ก่อน  และซื้อมาใช้จริงหลังหมดเวลาทดลองใช้งาน

13.3  การทำงานของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
13.3.1 TCP/IP ภาษากลางบนอินเทอร์เน็ต
เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะต้องมีหมายเลขประจำเครื่อง ที่เรียกว่า IP Address เพื่อเอาไว้อ้างอิงหรือติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในเครือข่าย ซึ่ง IP ในที่นี้ก็คือ Internet Protocol ตัวเดียวกับใน TCP/IP นั่นเอง IP address ถูกจัดเป็นตัวเลขชุดหนึ่งขนาด 32 บิต ใน 1 ชุดนี้จะมีตัวเลขถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนละ 8 บิตเท่าๆ กัน เวลาเขียนก็แปลงให้เป็นเลขฐานสิบก่อนเพื่อความง่ายแล้วเขียนโดยคั่นแต่ละส่วนด้วยจุด (.) ดังนั้นในตัวเลขแต่ละส่วนนี้จึงมีค่าได้ไม่เกิน 256 คือ ตั้งแต่ 0 จนถึง 255 เท่านั้น เช่น IP address ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของสถาบันราชภัฎสวนดุสิต คือ 203.183.233.6 ซึ่ง IP Address ชุดนี้จะใช้เป็นที่อยู่เพื่อติดต่อกับเครื่องพิวเตอร์อื่นๆ ในเครือข่าย
โดเมนเนม (Domain name system :DNS)
เนื่องจากการติดต่อสื่อสารกันกันในระบบอินเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอล TCP/IP เพื่อสื่อสารกัน โดยจะต้องมี IP address ในการอ้างอิงเสมอ แต่ IP address นี้ถึงแม้จะจัดแบ่งเป็นส่วนๆ แล้วก็ยังมีอุปสรรคในการที่ต้องจดจำ ถ้าเครื่องที่อยู่ในเครือข่ายมีจำนวนมากขึ้น การจดจำหมายเลข IP ดูจะเป็นเรื่องยาก และอาจสับสนจำผิดได้ แนวทางแก้ปัญหาคือการตั้งชื่อหรือตัวอักษรขึ้นมาแทนที่ IP address ซึ่งสะดวกในการจดจำมากกว่า เช่น IP address คือ 203.183.233.6 แทนที่ด้วยชื่อdusit.ac.th ผู้ใช้งานสามารถ จดจำชื่อ dusit.ac.th ได้ง่ายกว่า การจำตัวเลข
โดเมนที่ได้รับความนิยมกันทั่วโลก ที่ถือว่าเป็นโดเมนสากล มีดังนี้ คือ
http://vclass.mgt.psu.ac.th/~465-302/2006-2/Assignment-02/BPA_29_08_2/page_4.files/image001.gif.com ย่อมาจาก commercial สำหรับธุรกิจ
http://vclass.mgt.psu.ac.th/~465-302/2006-2/Assignment-02/BPA_29_08_2/page_4.files/image001.gif.edu ย่อมาจาก education สำหรับการศึกษา
http://vclass.mgt.psu.ac.th/~465-302/2006-2/Assignment-02/BPA_29_08_2/page_4.files/image001.gif.int ย่อมาจาก International Organization สำหรับองค์กรนานาชาติ
http://vclass.mgt.psu.ac.th/~465-302/2006-2/Assignment-02/BPA_29_08_2/page_4.files/image001.gif.org ย่อมาจาก Organization สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร
http://vclass.mgt.psu.ac.th/~465-302/2006-2/Assignment-02/BPA_29_08_2/page_4.files/image001.gif.org ย่อมาจาก Organization สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร

13.4  ประเภทของการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
           สำหรับการใช้อินเทอร์เน็ต  จะมีบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนจุดเชื่อมผู้ใช้เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต  บรษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเหล่านี้จะมีชื่อเรียกว่า  ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต  หากผู้ใช้ต้องการให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้จะต้องเสียค่าบริการอินเทอร์เน็ตเพื่อเชื่อมต่อกับ ISP
                ประเภทของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้น  สามารถแบ่งการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ 2 ประเภท  โดยขึ้นกับลักษณะการใช้งาน  ได้แก่  การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้ทั่วไป  และการเชื่อต่ออินเทอร์เน็ตระดับองค์กรที่มีผู้ใช้จำนวนมาก
13.4.1 การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
                ถ้าผู้ใช้ต้องการใช้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อกับ ISP ค่าใช้จ่ายอาจอยู่ในรูปของการสมัครเป็นสมาชิกโดยเสียค่ารายเดือน ซึ่งจะจำกัดจำนวนชั่วโมงที่ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ในแต่ละเดือน หรือค่าใช้จ่ายอาจอยู่ในรูปแบบของการซื้อเป็นชุดอินเทอร์เน็ตสำเร็จรูป ซึ่งจะเป็นการซื้อเหมาจำนวนชั่วโมงที่ผู้ใช้จะใช้ภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1 เดือน หรือ ใช้ภายในระยะเวลาใดก็ได้จนกว่าครบจำนวนชั่วโมง
                ข้อเสีย ของการใช้สายโทรศัพท์ในการสื่อสารคือความเร็วในการสื่อสารข้อมูลมรความจำกัด และบ่อยครั้งอาจเกิดสัญญาณรบกวนภายในสาย ทำให้การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หลุดได้
13.4.2 การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับองค์กรที่มีผู้ใช้จำนวนมาก
                สำหรับองค์กรที่มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก อาจทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้สาย Leased line ซึ่งเป็นสายส่งข้อมูลเช่ารายเดือน เชื่อมต่อตลอดเวลากับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยจะเสียค่าบริการรายเดือน อัตตราค่าบริการจะขึ้นกับความเร็วในการส่งข้อมูลที่ใช้ นอกจากนั้นจะต้องเสียค่าเช่าสาย Leased line รายเดือนให้กับองค์กรสื่อสารแห่งประเทศไทยด้วย
                การใช้สาย Leased line สามารถโอนย้ายข้อมูลด้วยความเร็วสูงกว่าการใช้สายโทรศัพท์ โดยคอมพิวเตอร์แม่ข่ายจะเชื่อมต่อกับ Leased line โดยผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า เราเตอร์ (Router) ซึ่งเราเตอร์ในปัจจุบันจะรองรับการทำงานร่วมกับเครือข่ายไร้สาย (Wireless Network)ด้วย

13.5 การเตรียมตัวเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  13.5.1 เครื่องคอมพิวเตอร์
                ถ้าเราต้องการใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างสมบรูณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราควรมีความเร็วในระดับที่ใช้ได้ ซึ่งมีความจริงเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นทั่วไปในปัจจุบันนั้น ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างไม่มีปํญหา
13.5.2 โมเด็ม
                โมเด็ม คือ อุปกรณ์เชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับคู่สายโทรศัพท์ โดยการแปลงสัญญาณดิจิตอลของคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณอนาล็อก แล้วส่งไปตามสายโทรศัพท์  และเปลี่ยนจากสัญญาณอะนาลอก ที่ได้จากสายโทรศัพท์ให้กลับไปเป็นสัญญาณดิจิตอล เพื่อส่งต่อไปยัง เครื่องคอมพิวเตอร์ อีกครั้ง
คำว่า โมเด็ม (Modems) มาจากคำว่า MOdulate + DEModulate คือ กระบวนการแปลงข้อมูลข่าวสารดิจิตอลเป็นอนาล็อก(Modulate) แล้วจึงแปลงสัญญาณกลับเป็นดิจิตอลอีกครั้งหนึ่ง(Demodulate)

ชนิดของ MODEM ถ้าแบ่งตามลักษณะการติดตั้งแล้วจะแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ

1.MODEM ชนิดติดตั้งภายนอก [ External Modem ] โดยจะต่อกับ Serial Port โดยใช้หัวต่อที่เป็น DB-25 หรือ DB-9 ต่อกับ Com1, Com2 หรือ
USB ข้อดีคือสามารถเคลื่อนย้ายไปใช้กับเครื่องอื่นได้ ติดตั้งได้ง่าย ไม่เพิ่มความร้อนให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจากติดตั้งอยู่ภายนอกและใช้แหล่งจ่ายไฟภายนอก สามารถใช้ งานกับเครื่อง NoteBook ได้เนื่องจากต่อกับ Serial Port หรือ Parallel Port มีไฟแสดง สภาวะการทำงานของโมเด็ม
ข้อดี
เคลื่อนย้ายได้สะดวก ติดตั้งง่าย ไม่เปลือง Slot
ข้อเสีย
เสีย Port ไปหนึ่ง Port ต้องใช้ไฟเลี้ยง
2.MODEM ชนิดติดตั้งภายใน [ Internal Modem ] เป็นโมเด็มที่มีลักษณะเป็นการ์ดเสียบกับสล็อตของเครื่องอาจจะเป็นแบบ ISA หรือPCI ติดตั้งยากกว่าแบบภายนอก เนื่องจากติดตั้งภายในเครื่องทำให้ใช้ไฟในเครื่องอันส่งผลให้เพิ่มความร้อน ในเครื่อง เคลื่อนย้ายได้ไมสะดวกยาก ใช้ได้เฉพาะ PC Computer แบบตั้งโต๊ะ เท่านั้นไม่สามารถใช้งานกับ NoteBook ได้
ข้อดี
ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยง ทำงานเร็วกว่า (สำหรับเครื่องสเปกต่ำ) ราคาถูกกว่า
ข้อเสีย
ติดตั้งยาก (ต้องถอด case) เสียSlot และ IRQ เพิ่มความร้อนภายใน
13.5.3 หมายเลขโทรศัพท์
                แน่นอนว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ต มีการส่งข้อมมูลผ่านมาทางสายโทรศัพท์ผู้ใช้ต้องมีหมายเลขโทรศัพท์เพื่อโทรเข้าไปยังหมายเลขของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ที่เราสมัครใช้บริการโดยนำขั้วต่อของสายโทรศัพท์ต่อเข้าโมเด็ม ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงข้อมูลที่มาตามสายโทรศัพท์ ให้เป็นข้อมูลดิจิตอลส่งเข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อีกต่อหนึ่งนั่นเอง
13.5.4 สมัครสมาชิกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
                หลังจากที่ได้เตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการติดต่อขอใช้บริการอินเทอร์เน็ต สำหรับนักศึกษาก็อาจสมัครเป็นสมาชิกอินเทอร์เน็ตได้กับศูนย์คอมพิวเตอร์ของสถาบันโดยตรง และสำหรับบุคคลทั่วไปก็สามารถขอสมัครเป็นสมาชิกกับบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิช ซึ่งปัจจุบันมรผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยหลายราย
                โดยสิ่งที่เราจะได้รับจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็คือ ชื่อบัญชีผู้ใช้ (User Name) รหัสผ่าน (Password) และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับ โทรเข้าไปเพื่อเชื่อมต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดย ISP บางรายจะมีอีเมล์แอดเดรสให้เราใช้งานด้วย
13.6 กำหนดค่าสำหรับเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
1. ไปที่ Desktop แล้วดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน My Computer
2. ที่หน้าต่าง My Computer นี้ ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน  Dial-Up Networking
3. ที่หน้าต่าง Dial-Up Networking ให้คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ไอคอน True Internet หลังจากนั้นเลือก Properties 
4. ที่หน้าต่าง True Internet นี้ แล้วให้เลือกแท็ป General
ในช่อง Area Code พิมพ์ 02
ในช่องTelephone number
พิมพ์   640-8000 สำหรับสมาชิก และชุด Cool Kit รองรับโมเด็ม 56 K Flex และ 56 K V.90
พิมพ์   640-8001 สำหรับสมาชิก และชุด Cool Kit รองรับโมเด็ม 56 K X2 และ 56 K V.90
พิมพ์   640-8008 สำหรับเครือข่าย Local Net และชุด Local Kit รองรับโมเด็ม  V.90
พิมพ์   640-8088 สำหรับเครือข่าย Cable Modem (เส้นทางส่งกลับใน cable modem หรือReturn path) รองรับโมเด็ม  V.90
พิมพ์   640-8009, 640-8080, 640-8081 สำหรับผู้ใช้ Corporate Fix IP รองรับโมเด็ม  V.90
(สำหรับระบบโทรศัพท์ที่ผู้ใช้ต้องกด 9 เพื่อโทรออกไปนอกหน่วยงาน  คุณต้องพิมพ์ 9 นำหน้าหมายเลขที่คุณต้องการโทรออก)
ในช่อง Country code        เลือก Thailand (66)
ในช่อง Connect using      ควรเป็นชื่ออุปกรณ์โมเด็มของคุณ
หลังจากนั้นคลิกที่ปุ่ม [Configure…]
5. ที่หน้าต่าง Modem Properties เลือกแท็ป General
ตรวจดูที่ช่อง Port   จะต้องเป็น Port เดียวกับที่คุณต่อโมเด็มไว้
ตรวจดูที่ช่อง Maximum speed คุณต้องเลือกความเร็วให้เหมาะสมกับโมเด็มของคุณ
6. ที่หน้าต่าง Modem Properties เลือกแท็ป Options
จากนั้นทำเครื่องหมายที่ช่อง “Display Modem Status” หลังจากนั้นคลิกที่ปุ่ม [OK]
7. ที่หน้าต่าง True Internet เลือกแท็ป Server Types
ในช่อง Type of Dial-Up Server ให้เลือกข้อความดังนี้ PPP: Internet, Window NT server, Windows 95/98
ในช่อง Advanced optionsให้คุณทำเครื่องหมายที่ช่อง Enable software compression
ในช่อง Allowed network protocols ให้คุณทำเครื่องหมายที่ช่อง TCP/IP
หลังจากนั้นคลิกที่ปุ่ม [TCP/IP settings]

8. ที่หน้าต่าง TCP/IP settings
ทำเครื่องหมายที่ช่อง
“Server assigned IP address”
ทำเครื่องหมายที่ช่อง “Specify name server addresses”
ในช่อง
    Primary DNS                 พิมพ์      203.144.207.29
ในช่อง    Secondary DNS          พิมพ์      203.144.207.49
ทำเครื่องหมายที่ช่อง
“Use IP header compression”
ทำเครื่องหมายที่ช่อง “Use default gateway on remote network”
หลังจากนั้นคลิกที่ปุ่ม [OK] ไปทุกครั้งจนกว่าคุณจะออกไปสู่หน้าต่าง The Internet Properties
9. ที่หน้าต่าง Dial-Up Networking นี้ ให้คุณดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน True Internet
13.7 การหมุนโทรศัพท์และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
                หลังจากที่ได้ทำการติดตั้งค่าต่าง ๆ ใน Dial-up Networking แล้ว เมื่อเราต้องการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ส่งให้คอมพิวเตอร์หมุนโทรศัพท์เข้าไปที่ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อทำการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้ทันที
                โมเด็มของเราจะมีเสียงหมุนโทรศัพท์ ถ้าหมุนติดจะมีเสียงสูงดังสักครู่ windows จะทำการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งจากจุดนี้สามารถเรียกใช้โปรแกรมต่าง ๆ เพื่อท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้ต่อไป เช่น internet Explorer เพื่อเปิดเว็บต่าง ๆเป็นต้น
ยกเลิกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
                เมื่อเราทำการหมุนโทรศัพท์เพื่อทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เราถูกนับจำนวนชั่วโมงการใช้งานโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เมื่อไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ต เราควรยกเลิกการเชื่อมต่อโดยดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่ม คอมพิวเตอร์ บริเวณทาสบาร์ จากหน้าต่าง Status ของการเชื่อมต่อ ให้เราคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Disconnect เพื่อยกเลิกการเชื่อมต่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น